ดําน้ําดูปะการังไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เตรียมตัวดี สนุกเต็มที่
ดำน้ำลึกอันตรายไหม? จริงหรือเปล่าที่ดำน้ำแล้วเวียนหัว? หลายคนอาจจินตนาการถึงความมืด ความกดดัน อาการหลังดําน้ํา หรือแม้แต่อุบัติเหตุน่ากังวล แต่ความจริงการดําน้ําดูปะการังไม่ได้มีอะไรน่ากลัวเลย หากคุณเตรียมตัวถูกวิธี รู้ข้อห้ามหลังดำน้ำ และมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล ดังนั้นอย่าเพิ่งปิดใจให้กับการดำน้ำลึก เพราะ NAVA Scuba Diving จะพาคุณดื่มด่ำกับโลกใต้ทะเลอย่างปลอดภัย หายห่วง และเต็มไปด้วยความประทับใจ หากอยากรู้ว่าทำไมใคร ๆ ถึงตกหลุมรักการดําน้ําแบบ Scuba และทำไมมันปลอดภัยกว่าที่คิด บทความนี้จะพาคุณไปหาคำตอบ พร้อมเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะทำให้ทุกครั้งที่ลงน้ำเป็นทั้งความสนุกและความมั่นใจเต็มเปี่ยม
เคลียร์ทุกข้อกังวลสำหรับมือใหม่ก่อนลงน้ำ ดำน้ำลึกอันตรายไหม
ความกังวลว่าดำน้ำลึกอันตรายไหมมักเกิดจากสภาพแวดล้อมใต้น้ำที่ต่างจากชีวิตประจำวัน ทั้งแรงดันที่สูงขึ้น การต้องหายใจใต้น้ำ ความมืด และกระแสน้ำ ทำให้หลายคนจินตนาการไปถึงอาการดำน้ำแล้วเวียนหัว เหตุฉุกเฉิน หรือแม้กระทั่งการโดนฉลามมาจู่โจมเหมือนอย่างในหนัง Nava Scuba Diving เข้าใจความกังวลนี้ดี จึงออกแบบทุกขั้นตอนเพื่อให้สามารถดําน้ําดูปะการังได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจ ตั้งแต่การเตรียมตัวก่อนลงน้ำ การใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน ไปจนถึงการวางแผนการดำน้ำตามมาตรฐานสากล พร้อมไกด์ดำน้ำท้องถิ่นผู้เชี่ยวชาญและการจัดทริปดำน้ำด้วยกลุ่มขนาดเล็ก เพื่อให้การดูแลเป็นไปอย่างทั่วถึง ทำให้ทุกครั้งที่คุณลงน้ำเป็นประสบการณ์ที่ทั้งสนุก ปลอดภัย ไร้กังวล
ความเสี่ยงมีได้ เช็กสัญญาณอาการหลังดําน้ํา หลีกเลี่ยงให้เป็น
แน่นอนว่าทุกกิจกรรมการผจญภัยย่อมมีความเสี่ยง แต่ระดับความเสี่ยงมากหรือน้อยจะขึ้นอยู่กับความรู้ ความเข้าใจ และการปฏิบัติตัวใต้น้ำของคุณ การดําน้ําดูปะการังก็เช่นกัน โดยความเสี่ยงหลัก ๆ ที่ควรใส่ใจมักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของแรงดันอากาศ ซึ่งสามารถส่งผลต่อหลายส่วนของร่างกาย และเพื่อให้คุณเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าอาจเกิดความเสี่ยงระหว่างดำน้ำหรือจะมีอาการหลังดําน้ําอย่างไรบ้าง ลองมาดูข้อมูลที่เราได้รวบรวมนำมาฝากกันเลย
ภาวะเมาไนโตรเจนขณะดำน้ำและภาวะออกซิเจนเป็นพิษ
Nitrogen Narcosis และ Oxygen Narcosis เป็นภาวะที่อาจเกิดขึ้นเมื่อร่างกายอยู่ใต้น้ำลึกเกินมาตรฐานที่แนะนำ ก๊าซไนโตรเจนหรือออกซิเจนภายใต้แรงดันสูงอาจส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้เกิดอาการมึนงง คล้ายคนเมา สมาธิลดลง หรือแม้กระทั่งหมดสติได้ในกรณีรุนแรง โดยอาการเหล่านี้ มักเกิดขึ้นขณะอยู่ใต้น้ำ และหายไปได้เมื่อกลับขึ้นมาจากความลึกนั้น ทั้งนี้ Nitrogen Narcosis มักพบหลังความลึกมากกว่า 30 เมตรขึ้นไป ส่วน Oxygen Narcosis ปกติจะเกิดได้ที่ความลึกมากกว่านี้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับส่วนผสมของอากาศที่เราใช้ดำน้ำด้วย โดยทั่วไปแล้วอาการทั้งสองอย่างนี้มักจะเกิดที่ความลึกเกินกว่าขอบเขตการดําน้ําดูปะการังแบบสันทนาการ
ดังนั้น นักดำน้ำที่ปฏิบัติตามมาตรฐานความลึกสันทนาการไม่เกิน 30 เมตร และปฏิบัติตามข้อกำหนดความลึกตามตามอากาศที่ใช้จะปลอดภัย ไม่ต้องกังวลกับภาวะเหล่านี้ อีกทั้งการดําน้ําดูปะการังท่องเที่ยวทั่วไปยังมีผู้สอนหรือไกด์ดำน้ำคอยดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาอีกด้วย ทำให้คุณสามารถดื่มด่ำไปกับโลกใต้ทะเลได้อย่างมั่นใจและไร้กังวล
โรคเกี่ยวกับการปรับแรงดัน (Decompression Illness)
หลังจากดำน้ำลึก ร่างกายอาจมีฟองก๊าซเล็ก ๆ สะสมในเนื้อเยื่อหรือกระแสเลือด ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการไม่สบายได้ทันทีจนถึง 48 ชั่วโมงหลังดำน้ำ โดยโรคเกี่ยวกับการปรับแรงดันนี้สามารถแบ่งประเภทหลัก ๆ ออกเป็น
- Decompression Sickness (DCS) / โรคน้ำหนีบ / Bends
- ฟองก๊าซสะสมในเนื้อเยื่อ
- อาการเบื้องต้น: ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ หรือมีผื่น
- อาการรุนแรง: ระบบประสาทได้รับผลกระทบ เช่น ชา แขนขาอ่อนแรง
- Arterial Gas Embolism (AGE) / ฟองอากาศอุดตันเส้นเลือดแดง
- ฟองอากาศเข้าไปติดในกระแสเลือดโดยตรง
- อาการ: เวียนศรีษะ ร่างกายอ่อนแรง ฟองเลือดออกทางจมูกหรือปาก ชัก หมดสติ หรือเป็นอัมพาตชั่วคราวในกรณีรุนแรง
แม้ฟังดูซับซ้อน แต่ความเสี่ยงเหล่านี้สามารถป้องกันได้ง่าย ๆ หากคุณมีการดําน้ําดูปะการังมาตรฐานความปลอดภัย เช่น วางแผนการดำน้ำให้เหมาะสม ขึ้นสู่ผิวน้ำช้า ๆ ทำ Safety Stop ทุกครั้ง และเว้นระยะเวลาการขึ้นเครื่องบินตามคำแนะนำ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถสนุกกับการดำน้ำลึกได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย
การเปลี่ยนแปลงของแรงดันต่อปอดและหู
อาการที่เกี่ยวกับหูนี้รู้สึกได้ทันทีทั้งตอนที่ลงและขึ้นสู่ผิวน้ำ โดยแรงดันน้ำที่เปลี่ยนไปตามความลึกส่งผลต่อช่องว่างในหู ดังนั้นนักดำน้ำทุกคนจึงต้องรู้วิธีปรับแรงดันในหู หรือที่มักเรียกว่า “การเคลียร์หู” อย่างสม่ำเสมอตอนดำลงสู่ความลึกและงดการเคลียร์หูเมื่อกำลังขึ้นสู่ผิวน้ำ การเคลียร์หูบ่อย ๆ จะช่วยลดความไม่สบายหู รวมถึงป้องกันอาการบาดเจ็บไปจนถึงอาการแก้วหูทะลุได้
ขณะเดียวกันแรงดันที่เปลี่ยนไปก็ส่งผลต่อการขยายตัวของปอดในขณะหายใจเช่นกัน โดยวิธีที่ควรปฏิบัติระหว่างการดำน้ำคือการหายใจอย่างสม่ำเสมอและไม่กลั้นหายใจเป็นหนึ่งในกฎที่สำคัญที่สุดในการดำน้ำ ที่ซึ่งจะช่วยลดโอกาสที่จะเกิดอาการปอดฉีก (Lung Over Expansion Injury) จากการกลั้นหายใจและขึ้นสู่ผิวน้ำอย่างรอดเร็วที่อาจทำให้ปอดขยายตัวอย่างฉับพลัน แต่ถ้าหากนักดำน้ำทุกคนทำตามหลักการการดำน้ำอย่างปลอดภัยแล้ว คุณก็จะสามารถดําน้ําดูปะการังได้อย่างสนุก ปลอดภัย ไร้กังวล
สัญญาณเตือนของร่างกาย
อาการดำน้ำแล้วเวียนหัว มึน ๆ หรืออ่อนเพลียหลังดำน้ำ ส่วนใหญ่เกิดจากร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือความเหนื่อยล้าจากการว่ายน้ำเป็นเวลานาน เนื่องจากการดำน้ำถือเป็นการออกกำลังกายชนิดหนึ่ง ก่อนลงน้ำจึงควรพักให้เต็มที่ และสังเกตร่างกายระหว่างดำน้ำ หากรู้สึกไม่สบายตัวหรือไม่อยากลงน้ำต่ออีกครั้ง ควรแจ้งไกด์ทันที เพื่อให้คุณดำน้ำได้อย่างปลอดภัยและสนุก
ความเสี่ยงเหล่านี้สามารถลดได้ด้วยการเรียนดําน้ํา Scuba กับ Nava Scuba Diving เราแนะนำทุกขั้นตอนอย่างถูกต้องตามหลักปฏิบัติสากลของ PADI พร้อมมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด และบริการครบวงจร ตั้งแต่การเตรียมอุปกรณ์ การฝึกทักษะพื้นฐาน ไปจนถึงการดำน้ำจริง ทำให้คุณมั่นใจ สนุก และได้เพลิดเพลินกับการดําน้ําดูปะการังสำรวจโลกใต้ทะเลเกาะเต่าอย่างเต็มที่
ข้อควรระวังของการดําน้ําดูปะการัง รู้ก่อน สนุกได้แบบปลอดภัย!
คำถามที่ว่าดำน้ำลึกอันตรายไหม จะเกิดอาการหลังดําน้ําที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายหรือเปล่านับเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะกับนักดำน้ำมือใหม่ที่ยังไม่เคยลองลงน้ำมาก่อน ดังนั้นหากคุณยังอยากไปดําน้ําดูปะการังที่เกาะเต่า แต่ยังมีความกังวลเรื่องดำน้ำลึกอันตรายไหมอยู่ Nava Scuba Diving ได้สรุปแนวทางสำคัญ ทั้งก่อนดำน้ำ ระหว่างดำน้ำ และข้อห้ามหลังดำน้ำมาให้ เพื่อให้คุณได้สนุกและปลอดภัยไปพร้อมกัน
ก่อนดำน้ำ
การเตรียมตัวก่อนดำน้ำคือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ร่างกายและจิตใจพร้อมรับมือกับสภาพแวดล้อมใต้น้ำ การทำตามขั้นตอนง่าย ๆ จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจให้ทุก Dive
- พักผ่อนให้เพียงพอ : การดําน้ําดูปะการังใช้พลังงานร่างกายมาก การนอนหลับให้เพียงพอจะช่วยลดความเหนื่อยล้าและความเสี่ยงของอุบัติเหตุได้
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ : การขาดน้ำอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคเกี่ยวกับแรงดัน (Decompression Illness) นักดำน้ำจึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอ และสม่ำเสมอก่อนดําน้ําลึกดูปะการัง
- ตั้งใจฟัง Dive Briefing : ทำความเข้าใจสภาพแวดล้อม จุดดำน้ำ และแพลนดำน้ำของกลุ่ม เพื่อลดความเสี่ยง รวมถึงเตรียมตัวล่วงหน้าก่อนลงน้ำ
- ตรวจอุปกรณ์ (Buddy Check / BWRAF) : ตรวจเช็คความพร้อมของอุปกรณ์ดำน้ำของตัวเองและบัดดี้ทั้ง BCD, Weight Belt, Regulator, Air และ Final Check ให้มั่นใจว่าอุปกรณ์พร้อมใช้งาน
- เช็กสภาพร่างกายตัวเอง : สังเกตร่างกายและจิตใจ ถ้ามีความกังวลหรือไม่มั่นใจ ให้แจ้งไกด์ก่อนลงน้ำ
ระหว่างดำน้ำ
ขณะที่อยู่ใต้น้ำ การควบคุมตัวเองและอุปกรณ์เป็นสิ่งสำคัญ การทำตามเทคนิคง่าย ๆ จะช่วยให้ Dive ของคุณปลอดภัยและสนุกไปพร้อมกัน
- ควบคุมการลอยตัวให้พอดี : ควบคุมการลอยตัวให้เป็นกลางไม่ลอยหรือจมมากเกินไป
- ใช้น้ำหนักให้เหมาะสม : การใช้ตะกั่วถ่วงน้ำหนักที่พอดีจะช่วยให้ลอยตัวง่าย ไม่เปลืองอากาศและไม่จมเกินไป
- ทำทุกอย่างอย่างใจเย็น : ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดข้อผิดพลาด ประหยัดพลังงาน และควบคุมร่างกายได้ดีกว่า
- หายใจลึก ๆ อย่างสม่ำเสมอ : ช่วยให้ใช้อากาศได้ขึ้น และลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการปอดฉีก
- ตรวจอากาศและ NDL : เช็กอากาศที่เหลือและ No-Decompression Limit อยู่เสมอเพื่อป้องกันอันตรายโดยเฉพาะจากอาการ DCI
- อยู่ในขอบเขตของตัวเอง : อย่าลงน้ำลึกเกินทักษะที่ตนเองได้รับการรับรองทำ Safety Stop หยุด 3 นาทีที่ 5 เมตรหรือตามที่ dive computer แนะนำเพื่อให้ร่างกายขับก๊าซไนโตรเจนอย่างช้า ๆ ก่อนที่จะขึ้นจากน้ำ หรืออาจมีการทำ Deep Stop เพิ่มก็ได้ตามแพลนการดำน้ำที่วางแผนไว้
หลังดำน้ำและหลังขึ้นฝั่ง
การปฏิบัติตัวหลังดำน้ำและปฏิบัติตามข้อห้ามหลังดำน้ำเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้ร่างกายปรับตัวและลดความเสี่ยง DCS ได้อย่างยอดเยี่ยม
- พักร่างกายอย่างน้อย 30–45 นาที : พักบนบกหลังดำน้ำ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคเกี่ยวกับแรงดัน (Decompression Ilness)
- ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ : ชดเชยน้ำที่เสียไป ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
- หลีกเลี่ยงน้ำร้อน / ซาวน่า : ความร้อนทำให้การไหลเวียนเลือดสูงขึ้น เพิ่มโอกาสการสะสมของก๊าซ
- งดดื่มแอลกอฮอล์ทันทีหลังดำน้ำ : ร่างกายจำเป็นต้องขับไนโตรเจนก่อน การเริ่มดื่มเร็วเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยง DCS
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก: ห้ามปีนเขาหรือเล่นซิปไลน์ภายใน 24 ชม.หลังดำน้ำ
- งดการนวดกล้ามเนื้อ : ผ่อนคลายเบา ๆ ได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการนวดกล้ามเนื้ออย่างน้อย 12-18 ชั่วโมง
- เว้นจากการ Freediving ขึ้นเครื่องบิน หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงแรงดัน : รออย่างน้อย 18-24 ชั่วโมง ก่อน ทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงแรงดัน เพราะร่างกายยังมีไนโตรเจนสะสม การทำกิจกรรมเหล่านี้ต่อทันทีอาจเพิ่มความเสี่ยง DCI ได้
เลือกคอร์สดำน้ำ Nava Scuba Diving หมดกังวลว่าดำน้ำลึกอันตรายไหม
พร้อมหรือยังที่จะสำรวจโลกใต้ทะเลที่เกาะเต่า? คุณจะได้ดื่มด่ำกับน้ำทะเลใส ๆ ปะการังสวย ๆ และฝูงปลาแปลกตามากมาย โดยไม่ต้องกังวลว่าดำน้ำลึกอันตรายไหม หรือจะมีอาการหลังดําน้ําหรือเปล่า เพราะทุกคอร์สและแพ็คเกจดำน้ำเกาะเต่าของ Nava Scuba Diving ออกแบบมาเพื่อให้คุณสนุกอย่างปลอดภัย จะมีคอร์สอะไรน่าสนใจบ้าง ลองมาดูกันเลย
คอร์สสำหรับมือใหม่
สำหรับใครที่ไม่เคยดำน้ำมาก่อน ยังกังวลอยู่ว่าดำน้ำลึกอันตรายไหม หรืออยากลองประสบการณ์ใต้น้ำครั้งแรก คอร์สเหล่านี้เหมาะมาก
- ค้นพบการดำน้ำลึก: ประสบการณ์ดำน้ำ 1 วัน เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์มาก่อน โดยจะได้ดำน้ำ 1-3 Dive ที่ความลึกสูงสุด 12 เมตร
- PADI Open Water: คอร์ส 3 วันสำหรับผู้เริ่มต้นที่จะได้รับใบรับรอง PADI Open Water สามารถดำน้ำได้ลึกสุดถึง 18 เมตร
- การแนะนำ PADI Open Water: คอร์สสำหรับผู้ที่เริ่มคอร์ส Open Water มาแล้วแต่อยากมาจบที่เกาะเต่า แค่มี PADI E-Learning และ PADI Referral Form ก็จบคอร์สได้ (ฟอร์มใช้ได้ 12 เดือนหลังการเรียนล่าสุด)
โดยสรุปแล้ว หากถามว่าการดำน้ำลึกอันตรายไหม การดำน้ำลึกหรือดําน้ําดูปะการังเป็นประสบการณ์ที่ช่วยเปิดโลกใต้ทะเลอันงดงาม แต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องระวัง เช่น อาการหลังดําน้ํา ดำน้ำแล้วเวียนหัว แรงดัน และการสะสมของก๊าซไนโตรเจน ซึ่งการเตรียมตัวที่เหมาะสม รู้ข้อห้ามหลังดำน้ำ พร้อมปฏิบัติตามขั้นตอนทั้งก่อน ระหว่าง และหลังดำน้ำ รวมถึงการเลือกคอร์สที่ตรงกับระดับฝีมือ จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจให้คุณสนุกกับการดำน้ำได้อย่างปลอดภัย NAVA Scuba Diving พร้อมให้คำแนะนำและฝึกทักษะแก่นักดำน้ำทุกระดับ ไม่ว่าคุณจะมีประสบการณ์มาก่อนหรือไม่ มาร่วมเปิดโลกใต้ทะเลอย่างมั่นใจและสนุกไปกับเราเลยวันนี้


